สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาโรคต้อหิน
โรคต้อหิน คืออะไร ?
รคต้อหิน หมายถึง สภาวะทางตาที่เกิดจากเส้นประสาทตา ซึ่งทำหน้าที่ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการมองเห็นจากจอประสาทตาไปยังสมองถูกทำลาย โดยเป็นผลมาจากความดันในลูกตาที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากการสะสมของของเหลวอันเนื่องมาจากการผลิตน้ำตาที่มากเกินไป หรือเกิดจากการอุดตัน ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคต้อหินอาจสูญเสียการมองเห็นได้ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที โดยโรคต้อหินสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ1
โรคต้อหินสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่:11
โรคต้อหินชนิดนี้สามารถพบได้บ่อยที่สุด (90% ของผู้ป่วยโรคต้อหิน) ซึ่งจะมีความชุกสูงโดยเฉพาะในคนเอเชียsup>2 ช่วงแรกผู้ป่วยจะมีอาการเพียงเล็กน้อย และอาจไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น โดยในระยะแรกของโรคอาจพบว่าผู้ป่วยเริ่มได้รับผลกระทบจากการมองเห็นภาพด้านข้าง (ภาพแคบลง) ซึ่งภาวะดังกล่าวมักเกิดขึ้นกับดวงตาทั้งสองข้าง3
เป็นภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเกิดจากความดันในลูกตาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเป็นผลมาจากการอุดตันของน้ำที่ไหลเวียนในลูกตา ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดตา และตาพร่ามัวที่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง และมองเห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟเมื่อมองที่หลอดไฟ4
เกิดจากสภาวะทางตา หรือความผิดปกติทางการแพทย์ด้านอื่นๆ เช่น ตาอักเสบ, ตาได้รับบาดเจ็บ, โรคเบาหวาน, หรือการใช้ยาหยอดตาที่มีสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน5, 6
เป็นชนิดที่พบได้ยาก มักเกิดในเด็กเล็ก และสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยเกิดจากความผิดปกติของระบบระบายน้ำในลูกตา7
สาเหตุของโรคต้อหินยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตามมีปัจจัยบางประการที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคได้:
ประมาณ 1% ของผู้ที่มีอายุ 40 ปีจะเป็นโรคต้อหิน โดยอัตราการเกิดโรคต้อหินจะเพิ่มขึ้น 10% ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 80 ปี8
แอฟริกัน, แคริบเบียน, และเอเชียมีแนวโน้มการเกิดโรคต้อหินมากกว่าเชื้อชาติอื่น9
การมีบิดา มารดา หรือพี่น้องที่เป็นโรคต้อหิน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อหินได้10
มีความเชื่อมโยงระหว่างโรคต้อหิน และโรคตาแห้งหรือไม่?
โรคต้อหิน และตาแห้งมักเกิดขึ้นร่วมกัน หลายการศึกษาพบว่าประมาณ 40-60% ของผู้ป่วยโรคต้อหินจะมีอาการตาแห้งร่วมด้วย11
สาเหตุประการหนึ่งเกิดจากกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับโรคตาแห้ง และต้อหินมักมีความคล้ายคลึงกัน ยกตัวอย่างเช่น โรคตาแห้ง และต้อหินมักเกิดในผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวาน, หรือโรคอ้วน เป็นต้น11,12
นอกจากนี้โรคตาแห้งอาจมีสาเหตุมาจากการใช้ยาหยอดตาสำหรับรักษาโรคต้อหินได้ด้วย โดยยาหยอดตาดังกล่าวมักมีส่วนประกอบของเบนซาลโคเนียมคลอไรด์ (Benzalkonium chloride หรือ BAK) ซึ่งเป็นสารกันเสียที่มีผลต่อเซลล์ของผิวดวงตา และนำมาสู่อาการตาแห้งได้ บางการศึกษาเชื่อว่าเบนซาลโคเนียมคลอไรด์สามารถสร้างความเสียหายต่อเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตสารเมือก ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ช่วยให้ฟิล์มน้ำตาเสถียร และป้องกันอาการตาแห้งได้13, 14
วิธีการรักษาโรคต้อหิน และอาการตาแห้งทำได้อย่างไร ?
การรักษาโรคตาแห้ง และต้อหินในเวลาเดียวกันอาจเป็นสิ่งท้าทายสำหรับผู้ป่วย และแพทย์ การรักษาโรคตาแห้งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพผิวของดวงตาในระยะยาว ตลอดจนช่วยให้ผู้ป่วยมีความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งบ่อยครั้งจะมุ่งเน้นเพื่อรักษาฟิล์มน้ำตาบนผิวดวงตาให้เพียงพอ อย่างไรก็ตามมักจะให้ความสำคัญต่อการรักษาโรคต้อหินเป็นลำดับแรก เนื่องจากหากไม่ได้รับการรักษาโรคต้อหินอย่างทันท่วงทีและเหมาะสม สามารถนำมาสู่การบกพร่องทางการมองเห็นอย่างรุนแรง หรือสูญเสียการมองเห็นได้ สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคต้อหินร่วมกับตาแห้ง แพทย์สามารถปรับเปลี่ยนแนวทางการรักษาได้ โดยขึ้นกับสาเหตุ และสภาวะของอาการตาแห้ง:
การลดการสัมผัสสารกันเสีย
การใช้ยาหยอดตาแบบรายวันที่ไม่มีสารกันเสีย สามารถหลีกเลี่ยงอาการตาแห้งที่มีผลมาจากเบนซาลโคเนียมคลอไรด์ได้14, 15 อย่างไรก็ตามยาสำหรับรักษาโรคต้อหินทุกตัวไม่ได้มีสูตรตำรับที่ปราศจากสารกันเสียทั้งหมด นอกจากนี้ควรพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายร่วมด้วย เนื่องจากยาหยอดตาแบบรายวันจะมีราคาแพงกว่า ดังนั้นอาจมีความยุ่งยากสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่องทางการเงินมากนัก14, 16
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของยาตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป หมายถึง การใช้จำนวนหยดยาในการหยอดตาที่น้อยลง และลดการใช้สารกันเสียที่จะเข้าสู่ดวงตาได้14
เป็นทางเลือกสำหรับการรักษาขั้นแรกในผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคต้อหิน โดยเลเซอร์สามารถช่วยในการไหลเวียนของน้ำในตา และลดความจำเป็นในการใช้ยาหยอดตาสำหรับรักษาโรคต้อหินได้ อย่างไรก็ตามวิธีนี้ไม่สามารถรักษาโรคต้อหินให้หายขาดอย่างถาวรได้ เนื่องจากผลของการผ่าตัดอาจลดลงเมื่อระยะเวลาผ่านไป17
การรักษาโรคตาแห้ง
เป็นการรักษาเบื้องต้นสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อย น้ำตาเทียมจะมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำตาธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็น “อาหารที่มีคุณค่า (functional food)” สำหรับดวงตาที่มีความแห้ง โดยน้ำตาเทียมจะทำหน้าที่เป็นสารที่เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวดวงตา17
การใช้เจล หรือขี้ผึ้งเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นอีกทางเลือกสำหรับการรักษาโรคตาแห้ง โดยขี้ผึ้งจะช่วยสร้างความสบายตาด้วยคุณสมบัติหล่อลื่นจากตัวขี้ผึ้งเอง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพเมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน และบ่อยครั้งมักใช้ตอนก่อนนอน17
เป็นวิธีง่าย ๆ สำหรับบรรเทาภาวะตาแห้ง ภายในเปลือกตาจะมีต่อมมากมายซึ่งทำหน้าที่หลั่งน้ำมันออกมาเพื่อลดการระเหยของน้ำตา การที่ตาอักเสบจะทำให้ต่อมเหล่านี้เกิดการอุดตัน และการใช้ยาหยอดตาสำหรับรักษาโรคต้อหินที่มีสารออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ยิ่งส่งผลให้ภาวะดังกล่าวแย่กว่าเดิม ซึ่งการนวด และทำความสะอาดบริเวณรอบๆ ดวงตาจะช่วยให้ต่อมดังกล่าวยังคงทำงานได้ตามปกติ17
เป็นเทคนิคการรักษาอาการตาแห้ง โดยใส่อุปกรณ์เข้าไปในรูเปิดท่อน้ำตาที่อยู่ตรงมุมตา ซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำตามักไหลไปยังจมูกและลำคอ เทคนิคนี้จะช่วยให้ดวงตามีน้ำหล่อลื่น อันเนื่องมาจากการที่น้ำตาจะอยู่บริเวณผิวของดวงตามากขึ้น18
- Glaucoma. https://www.nhs.uk/conditions/glaucoma/.
- Belamkar, A., et al., Asian Race and Primary Open-Angle Glaucoma: Where Do We Stand? Journal of Clinical Medicine, 2022. 11(9).
- What is Primary Open-Angle Glaucoma? https://glaucoma.org/what-isprimary-open-angle-glaucoma/
- Murray, M.T., 173 - Glaucoma: Acute (Angle Closure) and Chronic (Open Angle), in Textbook of Natural Medicine (Fifth Edition). 2020. p.1344-1348.e1.
- Roberti, G., et al., Steroid-induced glaucoma: Epidemiology, pathophysiology, and clinical management. Survey of Ophthalmology, 2020. 65(4): p. 458-472.
- Liu, W., et al., Co-occurrence of chronic kidney disease and glaucoma: Epidemiology and etiological mechanisms. Survey of Ophthalmology, 2023. 68(1): p. 1-16.
- Ko, F., M. Papadopoulos, and P.T. Khaw, Primary congenital glaucoma, in New Trends in Basic and Clinical Research of Glaucoma: A Neurodegenerative Disease of the Visual System, Part B. 2015. p. 177-189.
- Friedman, D.S., et al., Prevalence of open-angle glaucoma among adults in the United States. Arch Ophthalmol, 2004. 122(4): p. 532-8.
- Allison, K., D. Patel, and O. Alabi, Epidemiology of Glaucoma: The Past, Present, and Predictions for the Future. Cureus, 2020.
- McMonnies, C.W., Glaucoma history and risk factors. Journal of Optometry, 2017. 10(2): p. 71-78.
- Nijm, L.M., et al., Understanding the Dual Dilemma of Dry Eye and Glaucoma: An International Review. Asia-Pacific Journal of Ophthalmology, 2020. 9(6): p. 481-490.
- Erb, C., Prevalence of Dry Eye Disease in Glaucoma. European Ophthalmic Review, 2009. 03(02).
- Datta, S., et al., The Eye Drop Preservative Benzalkonium Chloride Potently Induces Mitochondrial Dysfunction and Preferentially Affects LHON Mutant Cells. Investigative Opthalmology & Visual Science, 2017.58(4).
- Goldstein, M.H., et al., Ocular benzalkonium chloride exposure:problems and solutions. Eye, 2021. 36(2): p. 361-368.
- Bagnis, A., et al., Antiglaucoma drugs: The role of preservative-free formulations. Saudi Journal of Ophthalmology, 2011. 25(4): p. 389-394.
- Bell, N. and L. Rosin, Preservative toxicity in glaucoma medication: clinical evaluation of benzalkonium chloride-free 0.5% timolol eye drops. Clinical Ophthalmology, 2013.
- Dry Eyes and Glaucoma: Double Trouble. https://glaucoma.org/dry-eyesand- glaucoma-double-trouble/.
- Sherwin, J.C., et al., Effect of a punctal plug on ocular surface disease in patients using topical prostaglandin analogues: a randomized controlled trial. Clinical & Experimental Ophthalmology, 2018. 46(8): p. 888-894.
Five‐item Dry Eye Questionnaire (DEQ-5).